Monday, November 10, 2014

หอไอเฟล


ลา ตูค์ อิฟเฟล” (La Tour Eiffel) ในภาษาฝรั่งเศส หรือ หอไอเฟล ถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส ใครที่มาเที่ยวปารีสเป็นต้องไม่พลาดการถ่ายรูปคู่กับหอไอเฟล
หอไอเฟล (ฝรั่งเศส: Tour Eiffel, ตูร์แอฟแฟล; อังกฤษ: Eiffel Tower) หอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนชองป์ เดอมาร์ส บริเวแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย

หอไอเฟลเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ "กุสตาฟ ไอเฟล" ในปี พ.ศ. 2549 นักท่องเที่ยวกว่า 6,719,200 คนได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ และกว่า 200,000,000 คนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ส่งผลให้หอไอเฟลเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้าชมมากที่สุดต่อปีอีกด้วย หอไอเฟลสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) หรือสูงเท่ากับตึก 81 ชั้น

เมื่อหอไอเฟลสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 1889) หอไอเฟลกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกแทนที่อนุสาวรัย์วอชิงตัน และได้ครองตำแหน่งนี้มาเรื่อยๆ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2547 (ค.ศ. 1930) ก็ได้เสียตำแหน่งให้แก่ตึกไครส์เลอร์ (319 เมตร หรือ 1,047 ฟุต) ที่เพิ่งสร้างเสร็จ หอไอเฟลเป็นสิ่งปลูกสร้างสูงที่สุดในกรุงปารีส และหากไม่นับรวมเสากระจายคลื่น หอไอเฟลเป็นสิ่งปลูกสร้างสูงที่สุดอันดับสองในฝรั่งเศส รองจากสะพานมีโย

หอไอเฟลมีความสูง 300 เมตร (986 ฟุต) ซึ่งไม่รวม เสาอากาศ 24 เมตร (72 ฟุต) ด้านบนนั้น ถ้าเปรียบเทียบกับตึกแล้วจะมีประมาณ 75 ชั้น ในขณะที่ก่อสร้างปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) หอไอเฟลนั้นเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดบนโลก โดยถูกล้มตำแหน่งเมื่อเมืองนิวยอร์กได้สร้างตึกไครส์เลอร์ สูง 319 เมตร (1047 ฟุต)น้ำหนักเหล็กที่ใช้ก่อสร้างนั้นทั้งหมด 7,300 ตัน และถ้ารวมทั้งหมดก็เป็น 10,000 ตัน ส่วนจำนวนบันไดนั้นเปลี่ยนแปลงตลอด เมื่อแรกเริ่มนั้นมี 1710 ขั้น ในทศวรรษที่ 1980 มี 1920 ขั้น และในปัจจุบัน มี 1665 ขั้น
ในสมัยนั้น หอไอเฟลถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เนื่องจากมีการออกแบบการก่อสร้างที่มีความผิดแผกแตกต่างจากการสิ่งก่อสร้างในอดีต ไม่เข้ากับอาคารบ้านเรือนและโบสถ์เก่าแก่ในเมือง ดูแล้วไร้ซึ่งความเป็นศิลปะ และทำลายทัศนียภาพของกรุงปารีส ถึงกับถูกศิลปินแขนงต่างๆ ประณามว่า หอไอเฟลคือความอัปลักษณ์บนใบหน้าของปารีสเลยทีเดียว แต่ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงและยาวนาน ชาวบ้านก็ชื่นชอบหอไอเฟลมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดออกมาโห่ร้องให้กำลังใจ ตอนที่กุฟตาฟ ไอเฟล เดินขึ้นบันได 1,710 ขั้น เพื่อนำธงชาติฝรั่งเศสไปประดับไว้บนยอดสูงสุดของหอคอย (และแน่นอนว่าเขาเป็นคนแรกที่เดินขึ้นไป!) จากตอนแรกที่รัฐบาลตั้งใจว่าจะจัดแสดงศิลปะเอกชินนี้เป็นการชั่วคราวเท่านั้น แบบว่าจบงานแล้วก็รื้อทิ้ง กลายเป็นว่าสุดท้ายทางการสื่อสารมวลชนของประเทศก็ตัดสินใจให้เก็บหอไอเฟลไว้ใช้เป็นสถานีรับส่งสัญญาณวิทยุ ต่อมามีการสร้างศูนย์วิทยุขึ้นอย่างถาวร และยังคงใช้มาถึงปัจจุบันนี้ ในที่สุดงานศิลปะชั่วคราวก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกเป็นเวลากว่า 40 ปี (ค.ศ. 1889-1930) และเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก!

หอไอเฟลสร้างเสร็จ และมีพิธีเปิดวันที่ 31 มีนาคม 2432 และกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกแทนอนุสาวรีย์วอชิงตัน จนกระทั่งเสียตำแหน่งให้แก่ตึกไครส์เลอร์ (319 เมตร หรือ 1,047 ฟุต) ไปในปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930)
หอไอเฟลเป็นสิ่งปลูกสร้างสูงที่สุดในกรุงปารีส ถ้าเปรียบเทียบกับตึกแล้วจะมีประมาณ 75 ชั้น
หอไอเฟลแกว่งตัวได้ตามแรงลม แกว่งได้ถึง 6-7 เซ็นติเมตร!
หอไอเฟล (ฝรั่งเศส: Tour Eiffel, ตูร์แอฟแฟล; อังกฤษ: Eiffel Tower) หอคอยโครงสร้างเหล็กตั้งอยู่บนชองป์ เดอ มารส์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส หอไอเฟลเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ทั้งยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย

หอไอเฟลเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบ "กุสตาฟ ไอเฟล" ในปี พ.ศ. 2549 นักท่องเที่ยวกว่า 6,719,200 คนได้เข้าเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ และกว่า 200,000,000 คนตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง ส่งผลให้หอไอเฟลเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีคนเข้าชมมากที่สุดต่อปีอีกด้วย หอไอเฟลมีความสูง 324 เมตร (1,063 ฟุต) (รวมเสาอากาศสูง 24 เมตร (79 ฟุต)) ซึ่งก็สูงเท่ากับตึก 81 ชั้น


ปัจจุบัน หอไอเฟล เป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่ทำให้ทุกคนนึกถึงประเทศฝรั่งเศสเพราะสิ่งก่อสร้างที่มีอยู่นั้น เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีความแปลกใหม่และไม่มีใครเหมือน แม้ว่าในปัจจุบันจะมีสิ่งก่อสร้างใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรที่สามารถจะเข้ามาทดแทน หอไอเฟล ได้เลย

อ้างอิง



เกาะนามิ

เกาะนามิ (ฮันกึล:남이섬, นามีซ็อม) ตั้งอยู่ที่เมืองชุนช็อน จังหวัดคังวอน ห่างจากกรุงโซลไปทางตะวันออก 63 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเกาหลีใต้ เกาะนามีมีรูปร่างเหมือนใบไม้ลอยน้ำ เป็นเกาะกลางแม่น้ำฮัน ซึ่งเกิดจากการสร้างเขื่อนช็องพย็อง โด่งดังจากซีรีส์เพลงรักในสายลมหนาว ซึ่งใช้เกาะนามีเป็นสถานที่ถ่ายทำ

เกาะนามีได้ชื่อตามนายพลนามี ที่รับราชการตั้งแต่อายุ 17 ปี บิดาอยู่ในตระกูลสูงศักดิ์ ส่วนมารดาเป็นเจ้าฟ้าหญิง เขานำทัพกวาดล้างจลาจลในพื้นที่ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศได้ทั้งหมด และได้รับตำแหน่งสูงเมื่อยังมีอายุเพียง 26 ปี แต่หลังจากเปลี่ยนรัชกาลใหม่ เขาก็ถูกใส่ร้ายว่าเป็นกบฏ และถูกประหารชีวิตพร้อมกับมารดาและพวกรวม 25 คน ต่อมา หลังผลัดเปลี่ยนรัชกาลใหม่อีกครั้ง ได้มีการพิสูจน์พบว่าข้อกล่าวหาทั้งหมดล้วนเป็นเท็จ เขาจึงได้รับคืนยศถาบรรดาศักดิ์ดังเดิม เกาะแห่งนี้มีทิวทัศน์ที่สวยงามไปด้วยต้นเกาลัดและทิวสนเรียงราย ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะมีเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสี ใบไม้ต่างเปลี่ยนเป็นสีแดงสวยงาม และมีสุสานของนายพลนามี ซึ่งยังคงตั้งอยู่ ณ เกาะแห่งนี้

เกาะนามิ (Nami-som) เกาะแห่งรักรูปจันทร์เสี้ยวกลางทะเลสาบแห่งนี้ อยู่ทางตะวันออกของกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อเรี่องวิวสวย บรรยากาศโรแมนติก เหมาะสำหรับคู่รักมาใช้เวลาร่วมกัน และที่สำคัญ ที่นี่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับผู้ตั้งใจจะมาตามรอยซีรี่ส์เกาหลี

เกาะนี้เคยเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และเป็นที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมเฉพาะกลุ่มคนเกาหลีเท่านั้น แต่หลังจากซีรีส์ เรื่อง “Winter Sonata” (เพลงรักในสายลมหนาว) ออกฉาย และสร้างกระแส K-Series จนเป็นที่รู้จักและโด่งดังในหลายประเทศ เกาะแห่งนี้ จึงกลายเป็นสถานที่แห่งความรักของหนุ่มสาว รวมทั้งคอซีรีส์เกาหลีต่างก็หลั่งไหลมาเที่ยวกันอย่างล้นหลาม
บรรยากาศสุดโรแมนติกบนเกาะนามิ ประเทศเกาหลี


มุมที่ถ้ามาถึงเกาะนามิแล้วยังไงก็ห้ามพลาด ก็คือจุดที่มีรูปปั้นของ เบ ยองจุน และชเว จีวู (พระ-นางของเรื่อง) ยืนอยู่ และแนวทิวสนที่เรียงรายสวยงาม (โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วง) รวมถึงยังสามารถไปเคารพสุสานของท่านนายพลนามิ ซึ่งอยู่ที่เกาะนามิได้ด้วย
ช่วงฤดูใบไม้ร่วงบนเกาะนามิ ใบไม้จะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองสวยงามตลอดทางเดิน

เกาะแห่งรักเกาะนี้ ตั้งชื่อเกาะตามชื่อของ นายพลนามิ เป็นเกาะเล็กๆ ลักษณะรูปทรงคล้ายพระจันทร์เสี้ยว หรือใบไม้ลอยนํ้า ตั้งอยู่กลางทะเลสาบชองเพียง (Cheongpyeong Lake) ในเมืองกา-พยอง (Gapyeong) ทางตะวันออกของกรุงโซล ใช้เวลาเดินทางราวๆ 1 ชม.

เกาะนามิสามารถไปเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี หากมาท่องเที่ยวในช่วงที่ต่างกัน ก็จะได้เห็นเกาะนามิที่แตกต่างกันตามฤดูกาลด้วย ก็คือ ช่วงเดือนพฤษภาคม (ใบไม้ผลิ), กรกฎาคม สิงหาคม (ช่วงนี้พรรณไม้จะเขียวๆ) และตุลาคม พฤศจิกายน จะเป็นช่วงที่สวยงามที่สุดเพราะเป็นช่วงใบไม้ร่วง ต้นไม้ใบไม้จะเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลืองอร่ามละลานตาทีเดียว หรือหากใครอยากเห็นหิมะสีขาวโพลนสวยงามแปลกตาให้อารมณ์วินเทอร์สมใจ ก็ต้องมาช่วงเดือนธันวาคม กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงหน้าหนาวของเกาหลีเลยค่ะหากเดินทางมาในหน้าหนาวจะได้เห็นหิมะขาวโพลน

อ้างอิง